Movie Review: Love & Other Drugs (2010) A magical drug that cannot cure love

รีวิวหนัง Love & Other Drugs (2010) ยาวิเศษที่ไม่อาจรักษารัก

ประเภทของภาพยนตร์: ดราม่า/โรแมนติก

วันที่เข้าฉาย: 24 พฤศจิกายน 2553

ผู้กำกับ: Edward Zwick

นักแสดงนำ: Jake Gyllenhaal/Anne Hathaway/Oliver Platt/Hank Azaria/Josh Gad/Gabriel Macht

ความยาว : 112 นาที

 

เรื่องย่อ:

ในปี 1996 เจมี่ แรนดัล หนุ่มเจ้าชู้ ถูกไล่ออกจากร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในเมืองพิตต์สเบิร์ก เพราะมีความสัมพันธ์กับแฟนสาวของผู้จัดการ พี่ชายของเขา จอช ผู้มั่งคั่ง แนะนำให้เจมี่ไปทำงานเป็นตัวแทนขายยาของบริษัทไฟเซอร์ หลังจากที่เจมี่เข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรม เขาก็เริ่มทำงานให้กับบริษัทโดยพยายามหาทางให้แพทย์สั่งจ่ายยา Zoloft ซึ่งถูกปฏิเสธหลายครั้ง ทำให้บรูซ ผู้จัดการประจำภูมิภาคของเขาผิดหวัง เพราะมองว่านี่คือทางเข้าสู่ตลาดชิคาโก บรูซแนะนำให้เจมี่พยายามเข้าถึง ดร. สแตน ไนท์ เพื่อให้สั่งจ่าย Zoloft แทนโพรแซค และหวังว่าแพทย์คนอื่นจะทำตาม เจมี่พยายามเข้าหาดร. ไนท์ โดยการจีบพนักงานหญิงของเขา และแอบทิ้งตัวอย่างโพรแซคไว้ด้วย หนังฟรี

ในที่สุด ดร. ไนท์ ก็ยอมให้เจมี่เข้ามาสังเกตการณ์ขณะที่ตรวจอาการของ แม็กกี้ เมอร์ด็อก ผู้ป่วยพาร์กินสันระยะเริ่มต้น แม็กกี้สนใจเจมี่และขอเบอร์โทรจากผู้ช่วยของดร. ไนท์ ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้ง และตกลงกันว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ที่จริงจัง พวกเขาเริ่มมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด

วันหนึ่งเจมี่ถูก เทรย์ แฮนนิแกน ตัวแทนขายยาโพรแซค ทำร้าย เนื่องจากเทรย์พบว่าเจมี่แอบทิ้งตัวอย่างยาไว้ แม็กกี้เล่าว่าเทรย์คือแฟนเก่าของเธอ และยังบอกกับเจมี่เกี่ยวกับข่าวลือว่าไฟเซอร์กำลังพัฒนาไวอากร้า บรูซยืนยันกับเจมี่ว่าไวอากร้ากำลังจะออกสู่ตลาด และเมื่อออกวางจำหน่าย เจมี่ก็ขายไวอากร้าได้อย่างประสบความสำเร็จในทันที

เจมี่เปิดเผยกับแม็กกี้ว่าเขาต้องการความสัมพันธ์ที่จริงจัง แต่แม็กกี้กลับเลิกกับเขา วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังช่วยผู้สูงอายุขึ้นรถบัสไปแคนาดาเพื่อซื้อยาราคาถูก เจมี่ไปเผชิญหน้ากับเธอ ทั้งคู่มีปากเสียงกัน แต่เจมี่ก็ไม่ยอมไปไหน รออยู่ที่ป้ายรถบัสตลอดทั้งคืน จนแม็กกี้ซาบซึ้งใจและตอบรับความรักของเจมี่ ทั้งคู่จึงกลับมาคบกันอีกครั้ง

เจมี่พาแม็กกี้ไปร่วมการประชุมทางการแพทย์ และแม็กกี้ไปเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนผู้ป่วยพาร์กินสันที่จัดอยู่ใกล้ ๆ เจมี่ได้พบกับชายคนหนึ่งที่ภรรยาอยู่ในระยะสุดท้ายของโรค เขาให้คำแนะนำว่าเจมี่ควรปล่อยให้เธอไปและยอมรับในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

หลังการประชุม แม็กกี้บอกกับเจมี่ว่าเธอรักเขา เจมี่เริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับโรคพาร์กินสันและพาแม็กกี้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายคนทั่วประเทศ เมื่อการนัดหมายที่หนึ่งถูกยกเลิก เจมี่ระบายความโกรธออกมา แม็กกี้เชื่อว่าเจมี่อยากอยู่กับเธอเพียงเพราะยังมีความหวังในการรักษาได้เท่านั้น และเธอตัดสินใจเลิกกับเขา

ต่อมา เจมี่และจอชได้รับเชิญจากดร. ไนท์ไปงานปาร์ตี้ เจมี่กินไวอากร้าและมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงสองคน แต่ตื่นขึ้นมาพร้อมอาการข้างเคียงที่ต้องไปโรงพยาบาล ในเวลาต่อมา เจมี่ไปที่ร้านอาหารและพบแม็กกี้กำลังเดทอยู่กับชายอื่น บรูซมาถึงและบอกกับเจมี่ว่าเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปทำงานที่สำนักงานในชิคาโก

ในขณะที่จัดกระเป๋าเพื่อย้ายไปชิคาโก เจมี่พบเครื่องบันทึกวิดีโอที่บันทึกช่วงเวลาที่เขาและแม็กกี้คุยกันเกี่ยวกับชีวิต ทำให้เขาตระหนักว่าเขายังต้องการแม็กกี้ เจมี่พบว่าเธอกำลังเดินทางไปแคนาดาเพื่อซื้อยาราคาถูก และเขาก็รีบตามไปหาเธอ

เจมี่สารภาพรักกับแม็กกี้และบอกว่าเขาต้องการอยู่กับเธอ แม็กกี้ร้องไห้และบอกว่าเธอจะต้องการเจมี่มากยิ่งขึ้น เจมี่ตัดสินใจไม่รับตำแหน่งที่ชิคาโก แต่เลือกที่จะสมัครเข้าเรียนที่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กแทน เพื่อที่จะได้อยู่กับแม็กกี้และสนับสนุนเธอในทุกสิ่งที่เธอต้องการ

 

ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:

Love & Other Drugs (2010) เป็นภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้ที่ผสมผสานกับดราม่าทางการแพทย์ เรื่องราวของมันกล่าวถึงความรักที่สลับซับซ้อนและความพยายามในการเผชิญหน้ากับอุปสรรคของชีวิต แม้จะมีความสามารถในการรักษาหลายอย่าง แต่ "ยาวิเศษ" ไม่สามารถรักษาทุกสิ่งได้ โดยเฉพาะหัวใจที่บอบบาง

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ เจมี่ แรนดัล (เจค จิลเลนฮาล) ชายหนุ่มเจ้าชู้และมากเสน่ห์ ที่ถูกไล่ออกจากงานขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในเมืองพิตต์สเบิร์ก จนพี่ชายของเขาแนะนำให้ไปทำงานเป็นตัวแทนขายยาของบริษัทไฟเซอร์ เจมี่กลายมาเป็นตัวแทนขายยาที่มีความสามารถ เขามีหน้าที่แนะนำยาให้แพทย์และหาทางผลักดันให้พวกเขาเลือกใช้ยา Zoloft แทนโพรแซค mvhd24.com

ในขณะที่เจมี่กำลังพยายามสร้างโอกาสให้กับตัวเอง เขาได้พบกับ แม็กกี้ เมอร์ด็อก (แอนน์ แฮททาเวย์) หญิงสาวที่เป็นผู้ป่วยโรคพาร์กินสันระยะเริ่มต้น การพบกันของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติและเริ่มต้นจากความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด แต่กลับกลายเป็นว่าความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้นได้ทำให้พวกเขาเริ่มหลงรักกันจริง ๆ

เจมี่เป็นชายหนุ่มที่ต้องการมีชีวิตที่เป็นเลิศ ทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว เมื่อเจมี่เริ่มได้ยินข่าวเรื่องการพัฒนาไวอากร้า ซึ่งเป็นยาที่กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในตลาดยา สิ่งนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชีวิตการงานของเจมี่เดินหน้าไปได้ไกลอย่างที่เขาฝันไว้ แต่ถึงแม้เขาจะมีความสำเร็จในหน้าที่การงาน ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม็กกี้กลับเริ่มพบกับความท้าทายครั้งใหญ่

แม็กกี้เป็นคนที่มีจิตใจที่เปิดกว้าง เธอชื่นชมความรักที่ไม่มีพันธะและไม่ต้องการสร้างภาระให้กับใคร เจมี่ในตอนแรกเข้าใจและยอมรับเงื่อนไขนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาพบว่าตัวเองต้องการมากกว่าความสัมพันธ์ชั่วคราว เขาต้องการสร้างอนาคตร่วมกัน แม็กกี้กลับรู้สึกกลัวเพราะสภาพร่างกายของเธอและความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แม็กกี้พยายามผลักเจมี่ออกไปเพราะเธอไม่ต้องการเป็นภาระให้ใคร ส่วนเจมี่ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อค้นหาวิธีการรักษาและช่วยเหลือเธอ ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงอันเจ็บปวด ที่ไม่ว่าจะใช้ยาวิเศษสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาสมบูรณ์แบบได้ ความรักที่มีทั้งสุขและทุกข์ทำให้ทั้งคู่ต้องเลือกว่าจะเดินต่อไปด้วยกันหรือแยกจากกัน

หนึ่งในจุดเด่นของ Love & Other Drugs คือการแสดงของเจค จิลเลนฮาล และแอนน์ แฮททาเวย์ ทั้งคู่สื่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะแอนน์ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเจ็บปวดและความหวังที่บางครั้งก็ถูกบดบังด้วยความกลัว ภาพยนตร์ยังสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ของผู้ที่ต้องอยู่กับโรคที่ไม่มีทางรักษา และความสัมพันธ์ที่ต้องการความเข้าใจและความเสียสละ

อีกทั้ง Love & Other Drugs ยังแสดงถึงความเสน่ห์ของการใช้ชีวิตในช่วงวัยที่เต็มไปด้วยความฝัน การมองหาความรัก และการเผชิญหน้ากับความจริงของชีวิต ซึ่งบางครั้งแม้จะมียาวิเศษที่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้ แต่ก็ไม่สามารถรักษาความเปราะบางของหัวใจที่กำลังเต้นด้วยความรักได้

สรุปแล้ว Love & Other Drugs เป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงความรักที่ต้องผ่านบททดสอบของความไม่สมบูรณ์ เป็นหนังที่ทำให้เราได้เห็นว่า แม้จะมียาที่สามารถรักษาได้ทุกโรค ความรักก็ยังคงต้องการความพยายาม ความเข้าใจ และการยอมรับในความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง มันเป็นเรื่องราวของความรักที่ต้องผ่านการทดสอบของเวลาที่มาพร้อมกับความเจ็บปวด ความหวัง และการเติบโต

#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #Love&OtherDrugs #ยาวิเศษที่ไม่อาจรักษารัก

กลับด้านบน
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15

Comments on “Movie Review: Love & Other Drugs (2010) A magical drug that cannot cure love”

Leave a Reply

Gravatar